อะไรกันเนี่ยชี้ปัจจัย หงส์แดง ฟอร์มบู่ทิ้ง 3 แต้มในรังหน้าตาเฉย
อะไรกันเนี่ยชี้ปัจจัย ชี้ประเด็น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอคารังให้ ไบรท์ตัน 3-3 แบบ ขัดใจชาวเดอะค็อป ปัจจัยอะไรที่ทำให้เป็นแบบนี้มาดูกัน
หลังจากมีโปรแกรมทีมชาติเข้ามาแทรก ทำให้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกได้พักกัน และได้กลับมาลงฟาดแข้งกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยวันนี้เราจะโฟกัสที่ทีม ลิเวอร์พูล ที่ทีมตอนนี้ฟอร์มเก่งหดหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะได้บู๊ใน แอนฟิลด์ บ้านของตัวเอง แต่ยังกู้ฟอร์มเก่งกลับคืนมาไม่สำเร็จโดยทำได้แค่เสมอกับ ไบรท์ตัน 3-3 จากเกมส์นี้ เรามาดูกันว่าอะไรเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ ทีมพลาดเก็บสามแต้มในครั้งนี้
1. การเดินเกมที่มั่วซั่ว
หากใครที่เป็นแฟน “หงส์แดง” ต้องขัดใจในการเดินเกมของทีมในนัดนี้ได้แน่นอน การส่งบอล การเปิดบอล การเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม ดูเป็นอะไรที่มั่วไปหมด เหมือนยังไม่เข้าใจกัน ส่งไปทางวิ่งไปทาง แทงทะลุไม่ได้ จะส่งให้ถึงเป้าหมายแดนหน้าก็ไม่เฉียบขาด ดูขาดๆเกินๆไปเสียหมด แถมกองกลางก็ เสียบอลง่ายไป ไม่รู้ว่าเกิดจากการล้าของนักเตะ ที่ไปช่วยทีมชาติหรือไม่ และสุดท้ายก็โดน คู่แข่งอย่าง ไบรท์ตัน กระซวกไส้อย่างรวเร็ว ใน 5 นาที แรกก่อน จะตบหน้าให้ตื่น ด้วยประตูที่สอง ในไม่กี่นาทีต่อมา
หลังจากโดนนำไปสองลูก เกมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เริ่มจะดีขึ้น แต่ก็ดีไม่สุดยังนักเตะดูลนลานและรีบเร่ง หวังที่จะพาบอลไปข้างหน้าอย่างเดียวโดยไม่ได้เรียนรู้คู่แข่งเลยว่าเข้าเริ่มมองแผนการเล่นออกแล้ว สุดท้ายการบุกก็ได้ผล จากการที่ได้ VAR ช่วยเจ้าบ้านให้ได้ประตูจากการหลุดล้ำหน้าของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะป้ายบอลให้ ฟีร์มีโน่ วิ่งมายิงเข้าไป จนได้ตีไข่แตกก็ทำให้ทีมใจชื่นขึ้นมาหน่อยนั่นคือการจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-2 ที่เจ้าบ้านโดนลูบคม
พอครึ่งหลังทีมก็ เปลี่ยน หลุยส์ ดิอาซ ลงมาแทน คาวัลโญ่ ซึ่งการเปลี่ยนตัวมีมิติที่ดีขึ้น จนได้สองลูกและนำเป็น 3-2 โดยที่เกมควรจะจบด้วยสามแต้มสวยๆของเจ้าบ้าน แต่สุดท้ายก็มาโดนยิง 3-3 จากการผิดพลาดจากแดนกลาง และส่งผลมาถึงแดนหลัง เลย เลอันโดร ทรอสซาร์ วิ่งมาซัดโป้งเดียวจอดกับตีเสมอ และจบเกมด้วยสกอร์นี้ แบ่งแต้มกันไปอย่างน่าผิดหวังไปตามๆกัน
2. กองหลังล่องหน
ตอนนี้กองหลังของ “หงส์แดง” เหมือนจะเจอบ่อน้ำมันขนาดใหญ่เสียแล้ว โดยหลายทีมเริ่มขึ้นเกมบุกมาทางฝั่งขวาโดยตลอด ซึ่งพื้นที่ตริงนี้เป็นเขตการรับผิดชอบของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่ช่วงหลังมานี้ โดนคู่แข่งบุกทะลวงอยู่ตลอด และทำให้เสียประตูแทบทุกครั้ง เพราะเจ้าหนูเทรนท์ เหมือนเสพติดเกมบุกมากควรที่จะเป็น จนลืมไปแล้วว่าหน้าที่หลักของตัวเองคืออะไร จนกลายเป็นเป้าสำคัญของฝ่ายตรงข้ามที่ใช้โจมตีแบบง่ายดาย
ซึ่ง อาร์โนลด์ ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเวลานี้ว่ามีเกมรับที่ย่ำแย่ ไม่เพียงจะถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ เมินใช้งานในทีมชาติ แต่ยังโดน ไบรท์ตัน บุกมาในฝั่งนี้ไม่หยุด จนกลายเป็นบ่อน้ำมันของทีมไปแล้ว อีกทั้งยังมีการประสานงานกับกองหลังรุ่นพี่ได้แย่มาก โดยมีส่วนทำพลาดเสียประตูทุกลูก
แม้ คล็อปป์ จะออกมาโอ๋ ลูกทีมรายนี้ไปแล้ว แต่หากไม่ตาสว่างหรือ ไม่หนักแน่นในการอบรมสั่งสอนมากกว่านี้ อาร์โนลด์ อาจมีผลงานที่ย่ำแย่ลงเป็นลำดับก็ได้ แถมความเชื่อมั่นยังตกลงไปอีก หากเป็นอย่างนี้อยู่การหลุดโผของในทีมชาติไปลุยบอลโลกนี่มีโอกาสสูงที่จะได้นั่งขัดรองเท้าอยู่กับสโมสรแน่ๆ
3. กองหน้าไม่ล่าประตู
ลิเวอร์พูล แต่ก่อนสร้างความอันตรายในแดนหน้าได้อย่างสุดยอด จนกองหลังหลายๆทีมรู้ทีเด็ดพิษสงอย่างดี แต่มาเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ ซาดิโอ มาเน่ ย้ายไป และได้ ดาร์วิน นูนเญซ เข้ามา ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ การเป็นกองหน้าล่าประตูให้ทีมได้ ซึ่งนับวัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็เริ่มจะโดนจับทางได้ทุกที โดนประกบถี่ๆ ถึงสองคน ก็ทำเอาเล่นไม่ออก แถมความเฉียบคมก็หายไปหมด ตั้งแต่อัพค่าเหนื่อยสูงสุดในทีมก็เป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว
ส่วน ฟีร์มีโน่ ก็ยังเป็นตัวทำประตูได้ แต่ลูกเก๋าความเร็วก็ลดลงไปมาก ดูได้จากการไล่ล่าบอลคู่ต่อสู้ หรือการเก็บบอลให้อยู่กับตัวเอง ดูไม่แข็งแกร่งเท่าก่อนและเสียบอลบ่อยขึ้นมาก จนทำให้โดนสวนกลับอยู่บ่อยครั้งและภาระก็ตกไปที่กองหลัง ที่ยังไม่เข้าขาลงรอยเหมือนแต่ก่อนก็ทำให้ทีมเหนื่อยไปกันใหญ่
แต่ถึงอย่างนั้นแม้ทีมจะมี หลุยซ์ ดิอาซ เข้ามาสร้างความวูบวาบบ้าง แต่ก็จะฝากความหวังไว้เพียงเขาคนเดียวไม่ได้ หาก3 กองหน้าไม่มีความเฉียบคมดุดัน ความกระหาย หรือเห็นแก่ตัวสักหน่อย ความเป็นเพชฌฆาตก็ไม่บังเกิด และ เวลานี้หงส์แดงก็เป็นแบบนั้นไปเสียแล้ว
4. ตัวสำรองหมดสภาพ
ทัพ “หงส์แดง” แม้ตัวจริงฟอร์มไม่ดีแล้ว ตัวสำรองก็ไม่สามารถความได้เปรียบอะไรได้เลย การที่มีผู้เล่นอายุมากไป และ เด็กเกินไป เกิดความห่างชั้นที่ไม่อาจจะเข้าใจกันได้ในเวลาลงเล่นด้วยสภาพร่างกายด้วย ร่วมถึงการที่มีเด็กลงไปได้ความฟิตก็จริงแต่การตัดสินใจการอ่านเกม การมองคู่แข่งหรือการเข้าปะทะดูแล้วยังเป็นจุดที่ต้องหาคนมาทดแทนก่อน หากมีตัวหักบาดเจ็บ ตัวสำรองก็พร้อมขึ้นมาทดแทน แต่ในทัพหงส์แดงตอนนี้ ถือว่า ขุมกำลังทั้ง ตัวจริง และสำรอง น่าเป็นห่วงอย่างจริงจัง อาจจะต้องล้างบางเพื่อฟอร์มทีมใหม่ก็ต้องดูก่อนต่อไป
5.เปิดหาไอเดียการทำทีมใหม่
ในเกมนัดนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องหงุดหงิดหลายอย่างในตัวลูกทีม ทั้งที่ขุมกำลังก็พร้อมจะสู้แต่การทำทีม หรือแผนการในการลงสู้ต่อคู่แข่ง เหมือนกับว่าคู่แข่งเริ่มจับทางได้ นักเตะตัวหลัก โดนปิดเกมการทำเกมรุกและรับก็จะตื้อไปเลย ทั้งนี้ตัวผู้จัดการยอมรับว่าไม่ใช่คนที่ไม่มีฝีมือ แต่ตัวผู้เล่นต่างหากที่ อาจจะไม่เข้าใจในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น ดิอาซ หรือ นูนเญซ ซึ่งภาษาการเข้าใจยังไม่แข็งแรง อาจจะมีผลต่อการขึ้นเกมในแดนหน้า หรือไม่เข้าใจระบบได้
สุดท้ายใครที่เป็นแฟน “หงส์แดง” ในเวลานี้ ก็ต้องอดทนกับความผิดหวังที่ดูครึ่งกลางๆกันต่อไป จำไว้ว่าเราเคยมีเวลาที่แย่กว่านี้ก็ยังผ่านมาได้ การที่เราเคยเหยียบจุดสูงสุดมาแล้ว ก็อย่าได้ทะนงตนว่าเราจะอยู่จุดสูงสุดตลอด คู่แข่งก็พร้อมพัฒนาและพร้อมที่จะแซงเสมอ
หากไม่พัฒนาและไม่รู้ตัวว่าตัวเองว่าดีพอหรือไม่ หงส์แดง ที่เฟื่องฟูอาจจะวิ่งถอยหลังสู่ยุคแรกเริ่มก่อนที่ คล็อปป์มาทำทีมก็ได้ อย่างไรเสียเราที่เป็นแฟนบอลก็ยังคงให้กำลังใจนักเตะต่อไป คงไม่มีอะไรส่งท้ายนอกจาก จะส่งคำว่า You Never Walk Alone ให้นักเตะและ แฟนลิเวอร์พูลต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.sport.trueid.com
อ่านข่าวบอลเพิ่มเติ่ม : dooballfree123.com
ติดต่อเราได้ที่ : @LINE