ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ The Three Lions ฉายาที่ทั่วโลกรู้จักกัน เป็นที่รู้จักและโด่งดังทั่วโลก

ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ความนิยมจำนวนมากเป็นที่รู้จักและโด่งดังทั่วโลก

ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ทีมฟุตบอลตัวแทนจากชาติอังกฤษ สำหรับในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างชาติ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยทีมชาติอังกฤษเป็นไม่กี่ทีมที่ไม่มีสิทธิในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เนื่องจากเหตุผลทางการเมืองที่ประเทศอังกฤษไม่ถือว่าเป็นประเทศ

ทีมชาติอังกฤษมีผลงานสูงสุดคือ ชนะเลิศฟุตบอลโลก 1 ครั้งในปี 1966 ได้อันดับรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 2020 และได้ที่สาม ยูฟ่าเนชันส์ลีก 1 ครั้งในยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 รอบสุดท้าย

เพราะอังกฤษเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจัดตั้งการแข่งขันฟุตบอลในระบบลีกขึ้นมา และสาเหตุที่จัดตั้งขึ้นมาได้ก็เพราะประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในด้านกีฬาฟุตบอลทีมสโมสรดังๆก็อยู่ลีกอังกฤษ

มีต้นกำเนิดมาจากอังกฤษ เช่น ลิเวอร์พูล เชลซี แมนยู โดยมีระบบมาตรฐานการจัดการเป็นที่ยอมรับ ประวัติศาสตร์ด้านฟุตบอลที่อยู่กับอังกฤษมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่ามีทีมใหญ่ การแข่งขันก็กลายเป็นที่จับตามอง มีค่าเงินที่สนับสนุนและหมุนเวียนเยอะ

ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ

ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ประวัติศาสตร์จุดเริ่มต้นของฟุตบอล

อังกฤษถือเป็นชาติที่มีประวัติของกีฬาฟุตบอลเก่าแก่ที่สุดชาติหนึ่ง โดยจัดตั้งทีมชาติขึ้นมาพร้อม ๆ กับสมาคมฟุตบอล หรือเอฟเอ และพร้อม ๆ กับสกอตแลนด์ ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1870 จากนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1872 ตัวแทนทีมชาติสกอตแลนด์จัดแข่งขันกับอังกฤษ ที่แฮมิลตันเครสเซนท์

ถือเป็นการแข่งขันระดับนานาชาตินัดแรก เพราะทั้งสองทีมถูกเลือก และมีการดำเนินกิจการแยกกัน โดยอิสระ ไม่ได้ทำงานเป็นสมาคมเดียวกัน จากนั้นตลอด 40 ปีถัดมา อังกฤษจะจัดการแข่งขันนัดพิเศษ “บริติชโฮมแชมเปียนชิป” ระหว่างชาติในสหราชอาณาจักรสี่ชาติ คือ อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์

แรกเริ่มเลยนั้น อังกฤษไม่มีสนามเหย้าถาวร อังกฤษเข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ในปี ค.ศ. 1906 และได้ลงเล่นแข่งขันในระดับนานาชาติกับประเทศอื่น นอกเหนือจากในรายการบริติชโฮมแชมเปียนชิปเป็นครั้งแรก

ในการแข่งขันรายการของภูมิภาคยุโรปกลาง ในปี ค.ศ. 1908 จากนั้นในปี ค.ศ. 1923 มีการเปิดใช้สนามกีฬาเวมบลีย์ ที่เป็นสนามเหย้าของอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดีอังกฤษเคยมีปัญหากับฟีฟ่าและถอนตัวไปในปี ค.ศ. 1928 ก่อนกลับเข้าร่วมอีกครั้งในปี ค.ศ. 1946 ทำให้ไม่ได้เล่นฟุตบอลโลก

จนกระทั่งปี ค.ศ. 1950 ที่อังกฤษแพ้แก่สหรัฐอเมริกา 0–1 ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่พ่ายแพ้อย่างน่าอับอายในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ จนถึงปัจจุบันอังกฤษได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วทั้งหมดหนึ่งครั้ง คือ ฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพเอง และไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเลยมีผลงานดีที่สุดคือได้อันดับ 2 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020

ทำไมฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ถึงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องได้

จากผลงานการแข่งขันฟุตบอลโลกทีมชาติอังกฤษ ชนะเลิศฟุตบอลโลก 1 ครั้ง ในฟุตบอลโลก 1966 นับจากการแข่งทั้งหมด ทีมชาติอังกฤษ เข้าฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งหมด 15 ครั้ง (ฟุตบอลโลก 2018 เป็นครั้งที่ 15)

ซึ่งอังกฤษเริ่มเล่นครั้งแรกในฟุตบอลโลก 1950 ซึ่งในครั้งแรกนั้นแม้จะผ่านรอบคัดเลือกแต่ตกรอบแรกไป ซึ่งหลังจากนั้นทีมอังกฤษผ่านรอบคัดเลือกมาตลอดทุกปีต่อเนื่องกัน จนกระทั่งชนะเลิศในฟุตบอลโลก 1966 แต่หลังจากนั้นในฟุตบอลโลก 1974, 1988 และ 1994 ทีมชาติอังกฤษไม่ผ่านรอบคัดเลือก

โดยในฟุตบอลโลก 2006 ทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศและแพ้ โปรตุเกสไปจากการยิงจุดโทษ ในฟุตบอลโลก 2010 ทีมชาติอังกฤษก็ต้องตกรอบตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยแพ้เยอรมนีไป 1–4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2010 ในฟุตบอลโลก 2014 ทีมชาติอังกฤษเป็นทีมที่ต้องตกรอบแรกเมื่อแข่ง 2 นัด เป็นฝ่ายแพ้ต่ออิตาลี 2–1 และแพ้ต่ออุรุกวัยไป 2–1 เช่นกัน

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 56 ปีด้วย ที่อังกฤษตกรอบแรกฟุตบอลโลกต่อมาในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติอังกฤษสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ โดยสามารถคว้าอันดับ 4 ได้ในบั้นปลาย นับเป็นครั้งที่ 3 ของทีมชาติอังกฤษที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้

นับตั้งแต่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1968 เป็นต้นมา อังกฤษยังไม่เคยชนะในการแข่งขันนัดแรกเลย แม้จะได้ผ่านเข้าร่วมแข่งขันทุกครั้งก็ตาม ล่าสุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ก็เสมอต่อรัสเซียไป 1–1 โดยถูกรัสเซียยิงประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังนาทีที่ 2

5 ทีมฟุตบอลชื่อดัง ประเทศอังกฤษ ความนิยมสูง

ในประเทศอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งพิกัดปลายทางน่าเที่ยวในยุโรป ที่คอฟุตบอลชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชียร์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (Premium League) สดๆ แบบติดขอบสนามจริงๆ ไปเชียร์บอลที่สนามเจ้าถิ่นของทีมในดวงใจแล้ว และยังมีฟุตบอลทีมชาติบราซิล โดยได้รวบรวม 5 ทีมฟุตบอลชื่อดัง ประเทศอังกฤษที่แฟนได้ตามลุ่น

1.Manchester  United (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)

ทีมฟุตบอลประจำเมืองแมนเชสเตอร์อันมีชื่อเสียงโด่งดัง  โดยเฉพาะในหมู่แฟนฟุตบอลชาวไทย ที่ต้องบอกว่าเป็นสโมสรฟุตบอลอังกฤษที่มีแฟนคลับชาวไทยเป็นจำนวนมากติดอันดับ 1 ใน 2 อันดับแรกของสโมสรฟุตบอลอังกฤษที่คนไทยชอบที่สุดเลยก็ว่าได้ เด็กผีทั้งหลายเมื่อได้มีโอกาสมาเยือนสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) กันทั้งทีแล้ว

2.Liverpool (ลิเวอร์พูล)

ทีมฟุตบอลอังกฤษประจำเมืองลิเวอร์พูลชื่อเดียวกับชื่อทีม  ทีมคู่ปรับตัวฉกาจของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และยังเป็นสโมสรฟุตบอลอังกฤษที่ครองใจแฟนบอลชาวไทยเป็นอันดับต้นๆ อีกหนึ่งสโมสรด้วย สำหรับเด็กหงส์ที่เตรียมตัวพร้อมไปป่าวประกาศเสียงเชียร์ให้กึกก้องสนามแอนฟีลด์ (Anfield) กัน

3.Chelsea  (เชลซี)

อีกหนึ่งสโมรฟุตบอลทีมดังของประเทศอังกฤษ  อันเป็นทีมประจำเมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงลอนดอน  ซึ่งครองใจแฟนคลับชาวไทยอยู่ไม่น้อยทีเดียว ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังจากฝีเท้าของนักเตะทีมเชลซี  ทำให้แฟนคลับหลายต่อหลายคงต้องหาโอกาสล็อคเป้าหมายที่จะมาเยี่ยมเยือนกรุงลอนดอน

4.Arsenal  (อาร์เซนอล)

เมื่อเอ่ยถึงกรุงลอนดอน  และทีมฟุตบอลอังกฤษ ก็คงหนีไม่พ้นต้องเอ่ยถึงอีกหนึ่งทีมดังที่มีแฟนคลับหนาแน่น  กับสโมสรฟุตบอลประจำเมืองหลวงอีกสโมสรหนึ่ง อย่างทีมปืนใหญ่อาร์เซนอลล (Arsenal) เจ้าถิ่นแห่งสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม  (Emirates Stadium) อันเลื่องชื่อ ทีมฟุตบอลชื่อดังของพรีเมียร์ลีก และสนามฟุตบอลสวย ๆ ช่างเป็นบรรยากาศที่น่าหลงใหลจนอยากที่จะจินตนาการจริง ๆ

ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ สู่การแข่งขันฟุตบอลโลก

ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่กับฟุตบอลทัวร์นาเมนต์รายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร ต่างเป็นเส้นขนานของกันและกันเสมอโดยเฉพาะในปี 1996 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมาพร้อมกับเพลงเชียร์ Three Lions (Football’s Coming Home) ที่ถูกแต่งมาเพื่อปลุกใจในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเฉพาะ แต่สุดท้ายทีมชาติอังกฤษก็พลาดท่าตกรอบรองชนะเลิศจากการต่อเวลาดวลจุดโทษกับทีมชาติเยอรมัน

ยามที่เสียงเพลงเชียร์ Three Lions (Football’s Coming Home) จากวงร็อกอัลเทอร์เนทีฟระดับตำนาน The Lightning Seed ดังกระหึ่มขึ้น นั่นไม่ต่างจากเสียงลั่นกลองรบของทัพ เดอะ ทรีไลออนส์  ‘ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ’  กับภารกิจถกแขนเสื้อ ก้าวลงสู่สนาม วิ่งสู้ฟัดกับคู่แข่ง และพาถ้วยแชมป์กลับสู่บ้านเกิดอันเป็นที่รัก

ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจุดกำเนิดของกีฬาลูกกลมๆ นี้มีรากฐานความรุ่งโรจน์มาจากพวกเขา ทว่าคำยกยอปอปั้นดังกล่าวกลับสวนทางกับโลกแห่งความเป็นจริงตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับเนื้อเพลง ‘Never stopped me dreaming’ หรือแปลว่า ต่อให้พ่ายแพ้ ล้มอีกกี่ครั้ง พวกเขาก็จะไม่หยุดฝัน

เป็นเวลากว่า 55 ปี ที่ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ห่างหายจากคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ไปนาน หลังศึกทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก ปี 1966 ที่เจฟฟ์ เฮิร์ต ศูนย์หน้าระดับตำนานแห่งทรีไลออนส์ ตะบันแฮตทริกใส่ทีมชาติเยอรมันตะวันตกในนัดชิงชนะเลิศไป 4-2 สุดท้ายเป็น เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์ กัปตันทีม ชูถ้วยรางวัลจูลส์ ริเมต์ (ถ้วยฟุตบอลโลกแบบแรก) ขึ้นเหนือหัวท่ามกลางแฟนบอลหลายหมื่นชีวิตในสนามเวมบลีย์

เบื้องต้นที่ควรรู้สำหรับฟุตบอล และมีรายละเอียดอีกเยอะมากมาย ไม่ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฟุตบอล การแข่งขันในแต่ละเกม มีข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล รวมถึงกีฬาอื่นๆ พร้อมวิเคราะห์เกมแบบจัดเต็ม สามารถติดตามได้เพียง ไลน์แอด